คำตอบออกมามีหลากหลาย แต่หากกล่าวถึงมอเตอร์ไซค์ขวัญใจชาวไทย ช่วงปลาย พ.ศ. 2530's หนีไม่พ้น Honda Nova Dash มอเตอร์ไซค์สปอร์ตครอบครัว ที่แม้จะหายไปในปัจจุบัน แต่เรื่องราวของมันยังอยู่ในความทรงจำไม่เปลี่ยนแปลง
Main Stand พาคุณชมเรื่องราวของ Honda Nova Dash รถมอเตอร์ไซค์พันธุ์ผสมรุ่นดัง ตั้งแต่จุดเริ่มต้นถึงจุดสิ้นสุด และความพิเศษที่ทำให้รถรุ่นนี้ กลายเป็นตำนานสองล้อจนถึงปัจจุบัน
กล่าวถึงแบรนด์มอเตอร์ไซค์ที่โด่งดังทั่วโลก ชื่อของ Honda (ฮอนด้า) คงขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ จากเจ้าของตำแหน่งยอดขายสูงสุด ในปี 2019 แต่กว่าค่ายปีกนกจะมีวันนี้ พวกเขาเคยประสบปัญหาการจำหน่ายสินค้า โดยเฉพาะในประเทศไทย
ย้อนกลับไปในยุค 80's แบรนด์ Honda ตกเป็นรองค่ายคู่แข่งจากประเทศญี่ปุ่น ทั้ง Yamaha (ยามาฮ่า) และ Suzuki (ซูซูกิ) ด้วยยอดขาย และภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ที่เป็นรอง ทางญี่ปุ่นต้องปรับกลยุทธ์ให้ไวที่สุด เพื่อไม่ให้พวกเขาต้องล่าถอยกลับไปตั้งหลักที่แดนอาทิตย์อุทัยอย่างถาวร
ในช่วงเวลาเดียวกันที่ Honda ประสบปัญหา แบรนด์ Yamaha และ Suzuki กำลังได้รับความนิยมจากชาวไทย ด้วยมอเตอร์ไซค์รูปแบบสปอร์ตกึ่งครอบครัว หรือที่เรียกกันติดปากว่า "รถกะเทย" สื่อถึงความครึ่งควบลูกของรถประเภทนี้ ที่จะสปอร์ตก็ไม่ใช่ ครอบครัวก็ไม่เชิง
ชื่อดังกล่าวเกิดจากพฤติกรรมของนักซิ่งไทยในยุคนั้น ชอบเอารถแม่บ้าน (หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Underbone มาจากการใช้ตัวถังพลาสติกหุ้มโครงรถที่เป็นโลหะ) มาดัดแปลงจนกลายเป็นรถแข่ง ทางผู้ผลิตเห็นโอกาสทางธุรกิจไม่รอช้า เข้ามาตีตลาดตรงนี้ ด้วยการผลิตรถสปอร์ตครอบครัว (Sport Underbone) แก่ชาวไทยโดยเฉพาะ
มอเตอร์ไซค์สปอร์ตครอบครัวคันแรกในไทย (และน่าจะเป็นรุ่นแรกของโลก) คือ Yamaha Belle 80 เปิดตัวในปี พ.ศ. 2524 รุ่นดังกล่าวได้รับความนิยมมากในประเทศไทย ส่งผลให้ Yamaha ครองตลาดมอเตอร์ไซค์สปอร์ตครอบครัวยาวนาน 6 ปีเต็ม กระทั่ง พ.ศ. 2530 ค่าย Suzuki จึงกระโดดสู่สนาม ด้วยรุ่น Suzuki Sprinter 100
การเปิดตัวของ Suzuki Sprinter 100 เขย่าวงการมอเตอร์ไซค์ไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจาก Suzuki Sprinter 100 เปิดตัวที่ราคา 28,000 บาท แพงกว่ารุ่นคู่แข่งจาก Yamaha หลายพันบาท แต่กลับได้รับความนิยมจากชาวไทย จนบดขยี้ Yamaha Belle ที่ครองตลาดนานหลายปีราบคาบ เนื่องจากเครื่องยนต์ 100 cc ของ Suzuki Sprinter 100 แรงกว่า Yamaha Belle Super ซึ่งยังใช้เครื่องยนต์ขนาด 80 cc รวมถึงรูปทรงที่ปราดเปรียว จัดว่าเป็นมอเตอร์ไซค์ที่สวยมากในเวลานั้น
ขณะแบรนด์มอเตอร์ไซค์ 2 ค่าย กำลังแย่งชิงตลาดอย่างเข้มข้น Honda กลับได้แต่นั่งมองตาปริบๆ ทางเดียวที่พวกเขาจะกลับมามีชื่อในวงการนักบิดเมืองไทย จึงมีเพียง การกระโดดเข้าร่วมในตลาดมอเตอร์ไซค์สปอร์ตครอบครัว โดยทางผู้บริหารฝั่งญี่ปุ่นมั่นใจมากว่า หาก Honda เอาจริงในการผลิตสายนี้ พวกเขาจะครองตลาดมอเตอร์ไซค์ในไทยได้แน่นอน
พ.ศ. 2530 หลังการเปิดตัวของ Suzuki Sprinter 100 ไม่นาน แบรนด์ Honda ส่งมอเตอร์ไซค์สปอร์ตครอบครัวรุ่นแรกของพวกเขาอย่าง Honda Nova S ออกวางขาย พร้อมสโลแกน "เผ็ด...เด็ดขาด" สื่อถึงความเร่าร้อนและรวดเร็วที่ทิ้งห่างคู่ต่อสู้ ซึ่งเป็นคำโฆษณาที่ไม่เกินจริงแม้แต่น้อย
Honda Nova S มีเครื่องยนต์ 2 จังหวะ มาพร้อมกับความจุกระบอกสูบ 105 cc มากกว่ามอเตอร์ไซค์จากค่ายอื่นชัดเจน ทำให้กลายเป็นรถสปอร์ตครอบครัวที่เร็วที่สุดในท้องตลาด จึงโค่นล้มยอดขายของ Suzuki Sprinter 100 ที่ครองอันดับหนึ่งนานหลายเดือนได้สำเร็จ
Chaiyo โช๊คอัพ / Main Stand
ความสำเร็จของ Honda Nova S พาแบรนด์ Honda ผงาดขึ้นเป็นเจ้าแห่งรถมอเตอร์ไซค์ในประเทศไทย ครองอันดับหนึ่งด้านยอดขายมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531 จนถึงปัจจุบัน
ความสำเร็จของรุ่น Honda Nova S ทำให้แบรนด์ Honda ส่งรุ่นน้องในตระกูล Nova เข้าตีตลาดต่อเนื่อง ไล่ตั้งแต่ Honda Nova RS, Honda Nova R จนถึง Honda Nova RS Super ซึ่งทุกรุ่นล้วนได้รับความนิยม ช่วยให้ Honda ครองใจนักบิดชาวไทย ทำยอดขาย 190,000 คัน ในปี พ.ศ. 2535 ถือเป็นจำนวนเกินครึ่งของรถสปอร์ตครอบครัวที่วางขาย
แต่ถึงกระนั้น Honda Nova ที่กล่าวมา 4 รุ่น มีรูปลักษณ์แทบไม่แตกต่าง มีเพียงการพัฒนาด้านเครื่องยนต์ ที่ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง แบรนด์ Honda จึงอาจทิ้งห่างค่ายคู่แข่งไปไกล แต่ยังไม่สามารถก้าวข้ามกำแพงที่พวกเขาสร้างขึ้นเอง
พ.ศ. 2536 แบรนด์ Honda จึงปล่อยโมเดลใหม่ที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง ได้แก่ Honda Nova Dash พร้อมสโลแกน "เผ็ดสุดเผ็ด เหนือขีดจำกัด" สื่อถึงการพัฒนาไปอีกขั้นของมอเตอร์ไซค์ตระกูล Nova
Honda Nova Dash รุ่นแรกคือ Nova R Dash และ Nova RS Dash เปิดตัวด้วยเครื่องยนต์ 2 จังหวะ ความจุกระบอกสูบ 123.5 cc เปลี่ยนเกียร์ได้ 5 และ 6 ระดับ มีระบบระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ สามารถเร่งความเร็วถึง 200 กม./ชม. และทำแรงม้าสูงสุด 22 แรงม้า โดยสนนราคา 43,500 และ 46,000 บาท
ทันทีที่ Honda Nova Dash เปิดตัว ยอดขายของมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้เรียกว่าสูงเสียดฟ้า เนื่องจากการออกแบบที่ทันสมัย แตกต่างออกไปจากมอเตอร์ไซค์สปอร์ตครอบครัวทั้งหมด รวมถึงนวัตกรรมล้ำหน้าเกินใคร ไม่มีรถรุ่นไหนในตระกูลนี้ จะแรงไปกว่า Dash อีกแล้ว จนทางผู้ผลิตให้ฉายาว่า "King of Sport Family" เนื่องจากความครบเครื่องทุกด้าน และยอดจำหน่ายราว 3 แสนคัน ทั่วประเทศไทย ภายในเวลาไม่ถึง 2 ปี
พ.ศ. 2538 รถรุ่น Honda Nova Dash ก้าวสู่จุดสูงสุด ด้วยการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์เดิม จาก ไฟหน้า-ไฟท้ายแบบกลมคู่ กลายเป็น ไฟตาเพชร-ตูดเป็ด มีการใส่อกไก่เพื่อให้ดูเหมือนรถสปอร์ตมากขึ้น พร้อมกับ ล้อซี่ลวด 17 นิ้ว ที่ยังคงเป็นแรงบันดาลใจในการแต่งล้อของนักซิ่งจนถึงปัจจุบัน
Honda Nova Dash ที่โด่งดังที่สุด และยังเป็นตำนานจนถึงปัจจุบัน คือ Nova Dash 125 RS ที่ถูกผลิตในปี 2538 นอกจากความเท่ของไฟหน้าและไฟท้ายที่กล่าวไป มอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ มีจุดเด่นจากระบบ 6 เกียร์ และมีคลัทช์มือ ซึ่งเป็นของหายากในช่วงเวลานั้น พร้อมกับปรับปรุงใหม่จากโมเดลก่อนหน้า ให้ลดการปล่อยมลพิษที่น้อยลง ด้วยระบบ HECS (Honda Evolution Catalyzing System) ที่ถูกติดตั้งในท่อไอเสีย
อีกหนึ่งรุ่นที่เป็นตำนานและยังคงถูกตามหา คือ Honda Nova SP-1 (Dash) มอเตอร์ไซค์รุ่นพิเศษ ที่ผลิตขึ้นเพื่อฉลองยอดขาย 1 ล้านคันของตระกูล Nova ทั้งหมด โดยมีจำหน่ายในประเทศไทยเพียง 10,000 คัน พร้อมตัวเลขกำกับว่าคันไหนคือคันที่เท่าไหร่
ไม่ใช่แค่การผลิตที่เป็นลิมิเต็ด รูปลักษณ์ของ Honda Nova SP-1 แตกต่างออกไปจากรุ่นอื่น ด้วยสีม่วงเปลือกมังคุดตั้งแต่โครงยันล้อ เคลือบเงาให้สะท้อนแสงคล้ายรถยนต์ พร้อมกับเปลี่ยนล้อแม็กจากเหล็กซี่ เป็นล้อแม็ก 6 แฉก สีม่วง ดูหรูหรา มีราคา
แม้จะใช้เครื่องยนต์จาก Honda Nova Dash รุ่นปี 2536 แต่ Honda Nova SP-1 ขายดิบขายดี จำหน่ายหมดหมื่นคันอย่างรวดเร็ว ถือเป็นเครื่องยืนยันความนิยมของสองล้อรุ่นนี้เป็นอย่างดี
Honda Nova Dash จึงเป็นมอเตอร์ไซค์ที่เป็นยิ่งกว่าพาหนะพาผู้คนโดยสาร แต่เป็นเครื่องประดับคู่กาย มีขับขี่แล้วดูเท่กว่ารถรุ่นไหน นำมาสู่เนื้อหาในเพลง "รักแท้แพ้แดช" ของ เดช อิสระ ที่ผู้หญิงเปลี่ยนใจหันหาผู้ชายคนใหม่ ซึ่งใช้รถ Honda Nova Dash แม้เนื้อหาจะมองมอเตอร์ไซค์ตัวนี้เป็นวายร้าย แต่อิทธิพลของมันที่มีต่อชาวไทยในเวลานั้น คือเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้เลย
มอเตอร์ไซค์ Honda Nova Dash สร้างยอดขายดีเรื่อยๆ กระทั่งเจอปัญหาการควบคุมค่ามาตรฐานไอเสีย ส่งผลให้การผลิตรถ 2 จังหวะหยุดชะงัก ก่อนพัฒนาต่อมาสู่ Honda Nova Sonic และ Honda Nice ที่เปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ 4 จังหวะ แต่ทั้งสองรุ่นกลับอยู่ไม่นาน Honda Nova Sonic หยุดการจำหน่ายในไทยตั้งแต่ปี 2005 แม้ได้รับความนิยม ขณะที่ Honda Nice มีรูปลักษณ์ธรรมดาเกินไป จึงถูกมองข้าม ทั้งที่มีเครื่องยนต์และช่วงล่างค่อนข้างดี
ช่วงเวลาเดียวกันที่รถสปอร์ตครอบครัวเข้าสู่ตกต่ำ รถครอบครัวของแท้ หรือ "รถแม่บ้าน" กลายเป็นที่นิยมในประเทศไทย โดยเฉพาะ Honda Wave ที่ครบเครื่องเรื่องราคาและความทนทาน จนสร้างยอดขาย 1 ล้านคัน เช่นเดียวกับ Honda Nova ทำให้ผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์ในไทย หันมาเจาะตลาดนี้แทน
www.stickermocycle.com / Main Stand
เพียงพริบตา จากมอเตอร์ไซค์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในยุค 80's-90's รถสปอร์ตครอบครัวหายไปจนเรียกว่า "แทบสูญพันธุ์" จากประเทศไทย กลายเป็นเพียงเรื่องเล่าขาน (ผู้ผลิตรายใหญ่ มีเพียง Suzuki ที่ทำรุ่น Raider ออกมาขาย ณ ปัจจุบัน) แต่ Honda Nova Dash ยังถูกตามหาโดยบรรดานักสะสมมอเตอร์ไซค์ และวัยรุ่นสายซิ่งที่ต้องการขับขี่ตำนานในสนามแข่งขัน
ไม่ว่าเวลาผ่านไปเพียงใด ของดีอย่างไรคือของดี Honda Nova Dash พิสูจน์คำกล่าวที่ว่า เมื่อมีการขายมอเตอร์ไซค์ Honda Nova Dash 125 ที่ประเทศอินโดนีเซียด้วยราคา 100 ล้านรูเปีย หรือคิดเป็นเงินไทยมากกว่า 2 แสนบาท ผลปรากฎว่า มีชายหนุ่มคนหนึ่งซื้อไปด้วยจำนวนเงินดังกล่าว บ่งบอกว่า Honda Nova Dash มีคุณค่ามากแค่ไหนจนถึงปัจจุบัน
พิพิธภัณฑ์รถจักรยานยนต์โล้วเฮงหมง กาญจนบุรี - LHM Museum Kanachanaburi / Main Stand
สำหรับประเทศไทยที่เป็นตลาดหลักของรถสปอร์ตครอบครัว เราคงไม่ต้องจ่ายแพงขนาดนั้น หากหวังคว้า Honda Nova Dash มาครอบครอง มอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ถูกขายในตลาดมือสอง ด้วยราคา 5,000 – 20,000 บาท ถือว่าถูกกว่าช่วงจำหน่ายใหม่พอสมควร (ราคาแปรผันตามสภาพและของแต่ง บางคันที่แต่งเต็มอาจแพงกว่านี้) แต่เมื่อรวมกับค่าบำรุงรักษา ถ้าไม่รักจริง หลายคนคงคิดหนักที่จะซื้อ ถึงอย่างนั้น Honda Nova Dash ยังคงเป็นที่ต้องการจากนักบิดหลายคนอยู่ดี
ชื่อเสียงและเรื่องราวจากอดีตถึงปัจจุบัน กล่าวได้ว่า Honda Nova Dash คือ ราชาแห่งมอเตอร์ไซค์สปอร์ตครอบครัว ความรู้สึกของการครอบครองหรือขับขี่เจ้าสองล้อรุ่นนี้เพียงสักครั้ง คงไม่ต้องบอกว่ารู้สึกดีเพียงใด
และนี่เอง คือเหตุผลที่ Honda Nova Dash จึงเป็นตำนานที่อยู่ในใจชาวไทยตลอดกาล
